พลับอินทรีย์ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ Lemon Farm Organic PGS

27/07/2022

"พลับอินทรีย์ จุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงสู่ความยั่งยืน"
     คุณภานุวัฒน์ จะงะ เล่าว่าเริ่มการปลูกไม้ผลเมืองหนาว เมื่อ 15 ปีก่อน ตั้งแต่ช่วงปี 2548-2550 จากการสนับสนุนจากโครงการพัฒนาพื้นที่สูงและโครงการหลวง ส่งเสริมการปลูกพืชและผลไม้เมืองหนาวเพื่อลดการปลูกพืชสารเสพติดในพื้นที่ภูเขา เป็นต้นมา พร้อมๆกับบ้านผาเจริญของพี่แสน ประธานกลุ่ม ตอนนี้มีพื้นที่ปลูกพืชผสมผสานร่วม 30 ไร่ ได้แก่ พลับ ลูกท้อ เชอร์รี่ ลูกแพร ลูกไหน ลูกพลัม กาแฟ ด้วยพื้นที่การเพาะปลูกเป็นพื้นที่เขาสูง 800 - 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ทำให้ เหมาะกับผลไม้เมืองหนาว ทำให้ได้ผลไม้เมืองหนาวคุณภาพดี

     ก่อนที่จะเข้าร่วมกลุ่ม ขายผลผลิตให้กับตลาดทั่วไป ขายปลีกแร่ขายตามพื้นที่ภาคเหนือ ประสบปัญหาทางด้านตลาด ไม่สามารถขายผลผลิตได้ทั้งหมดที่ผลิตได้และราคาผลผลิตตกต่ำ ผลผลิตที่เหลือต้องทิ้ง หรือขายขาดทุนนานหลายปี

     หลังจากนั้นปี 2558 ได้เข้าร่วมกลุ่มกลุ่มเกษตรอินทรีย์ PGS บ้านผาเจริญ หลังจากได้พบกับคุณแสนสะอาด สินสายไทย ประธานกลุ่ม ที่ได้ร่วมกิจกรรมทางศาสนาคริสถ์ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดการพัฒนาผลผลิตและชุมชน ได้เข้าร่วมกลุ่มทำกระบวนการรับรองผลผลิต Lemon Farm Organic PGS ปลูกด้วยระบบวนเกษตรอินทรีย์ พัฒนาคุณภาพและส่งผลผลิตอินทรีย์กับเลมอนฟาร์มเป็นต้นมา

     พลับอินทรีย์ที่นี่ เป็นสายพันธุ์ P2 เป็นพลับสายพันธุ์ฝาดจะต้องบ่มหลังเก็บเกี่ยว ลักษณะผลค่อนข้างแบน ผลอาจมีรูปร่างกลมถึงเหลี่ยม เนื้อสีเหลืองอ่อนๆ จะปลูกได้ดีตั้งแต่ระดับความสูง 700 เมตรขึ้นไป ใบแก่ก่อนที่จะร่วงมีสีส้มอมแดง เป็นพันธุ์ที่มีความแข็งแรง เจริญเติบโตเร็วให้ผลผลิตสูง เป็นพันธุ์ที่เหมาะกับการปลูกในประเทศไทยในปัจจุบัน

     พลับของ คุณภานุวัฒน์ ปลุกผสมผสานมีประมาณ 200 ต้น ให้ผลผลิตทั้งหมด 10-15 ตัน/ปี ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวและได้คุณภาพประมาณ 60% รวมประมาณ 7-10 ตัน/ปี ปีนี้พลับแก่เต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยวช่วง ปลายเดือน กรกฏาคม- สิ้นเดือน สิงหาคม

     การเก็บเกี่ยวที่ดีที่สุด คือการใช้กรรไกรเล็กๆ ตัดที่ขั้วทีละผล โดยให้ส่วนของกลีบเลี้ยงยังคงติดอยู่ที่ผล เพื่อให้พลับคงความสดและเก็บรักษาไว้นาน ผลที่เก็บแล้วจะต้องป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนบนผิวผลซึ่งจะมีผลต่อคุณภาพของผลพลับ พลับที่ได้คุณภาพคัดเลือกเก็บเกี่ยวที่ความสุกแก่ตั้งแต่ 70-80% ขึ้นไป เพื่อให้สามารถนำมาบ่มสุก ทำให้สุกมากยิ่งขึ้น เพื่อกำจัดรสฝาดและเพิ่มรสหวาน

     วิถีภูมิปัญญาดั้งเดิม วิธีการลดความฝาดด้วยบ่มด้วยสุราขาว 40 ดีกกรี ตั้งแต่ต้นทาง เพื่อเร่งกระบวนการสุก หลังจากบ่มจนได้ความสุกที่ต้องการ 4-5 วัน จะใช้ระยะเวลาบ่มนานกว่าปกติเนื่องจากสภาพอากาศในพื้นที่หนาวเย็น หลังจากนั้นนำมาทำความสะอาดทีละผลพร้อมกับการคัดคุณภาพส่งมายังเลมอนฟาร์ม ความฝาดของผลพลับจะหายไปหลังจากนั้นนำออกมาคัดคุณภาพอีกครั้งก่อนการจัดส่งมายังเลมอนฟาร์ม

     ผลผลิตปี 65 นี้ กลุ่มได้ศึกษาและพัฒนาการบ่มด้วยวิธีการบ่มสุญญากาศ เป็นปีแรกที่จะได้ทดลองการบ่มด้วยวิธีการสุญญากาศในปีนี้เป็นปีแรก เพื่อพัฒนาการบ่มพลับให้ได้คุณภาพ ลดการสูญเลียเน่าระหว่างการบ่มจากวิธีการดั้งเดิม ทำให้พลับที่ได้มีคุณภาพดี ไม่มีกลิ่นหมักจากแอลกอฮอล เน่าเสียน้อย แห้งเก็บได้นานขึ้น

     วิธีการเลือกพลับอร่อยและเก็บรักษายาวนาน ให้เลือกผลที่มีสีเหลืองอมส้ม สุก 80 -90% พร้อมรับประทาน จะมีรสหวาน กรอบ หากชอบแบบนิ่มหวานให้บ่มต่อ จนสุกนิ่มสีส้ม แต่หากผลที่มีสีเหลืองอมเขียว เนื้อแข็ง ยังไม่สามารถรับประทานได้ ให้บ่มต่อโดยการบ่มในถุงอีก 1-2 วันที่อุณภูมิห้อง จะมีรสหวานขึ้น ลดความฝาด และวิธีการเก็บรักษาพลับให้อยู่ได้นาน ให้ทำความสะอาดพลับด้วยน้ำสะอาด เช็ดและผึ่งลมให้แห้ง นำพลับใส่ถุงมัดให้แน่นหรือใส่กล่องถนอมอาหาร เก็บรักษาในตู้เย็นในช่องเก็บผักได้นาน 7-10 วัน

     พลับอินทรีย์จากกลุ่มเกษตรอินทรีย์ PGS บ้านผาเจริญ โซนพื้นที่ บ้านห้วยน้ำขุ่น ต.ท่าก้อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เป็นอีกหนึ่งในผลผลิตที่ช่วยรักษาพื้นที่ป่าต้นน้ำ สร้างรายได้ให้กับสมาชิกที่ประสบปัญหาด้านตลาด เข้าสู่ปีที่ 7 แล้วที่จำหน่ายผลผลิตให้กับเลมอนฟาร์ม มีรายได้หมุนเวียนตลอดทั้งปีกับการผลิตพืชระบบวนเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน