
ในช่วงฤดูฝน ร้านเลมอนฟาร์มของเราอาจไม่มีผักหลายอย่างที่หลายคนต้องการซื้อทาน ผักสลัด คะน้า กวางตุ้ง กะหล่ำปลี ที่ทุกคนคุ้นเคยในช่วงฤดูร้อน ซึ่งหมดฤดูกาลไปแล้ว และเราจะไม่นำผักที่มีความเสี่ยงการใช้สารเคมีที่ไม่ปลอดภัยมาจำน่ายให้ผู้บริโภคของเรา
แต่ในช่วงเดือน มิ.ย. – ก.ค. ฤดูแห่งความชุ่มฉ่ำของสายฝน พี่เกษตรกรอินทรีย์ของเรามุ่งมั่น ตั้งใจปลูกในวิถีเกษตรอินทรีย์ที่สะอาด ปลอดภัยจากสารเคมี และผักที่เจริญเติบโตตามธรรมชาติได้ย่างงาม กำลังผลิดอกออกยอด อย่างสดชื่น เปี่ยมพลังสดมีชีวิต
เพราะไม่ใช่ฤดูไหนก็ได้ที่เราจะสามารถทานผักที่ให้รสชาติที่ดีที่สุด เท่ากับ ผักตามฤดูกาลค่ะ
ความยากลำบากของการปลูกผักในฤดูฝน เป็นงานที่หินและปราบเซียนของพี่ๆ เกษตรกรอินทรีย์ ขนาดลุงสมทบ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ เพชบุระ พีจีเอส เพชรบูรณ์เซียนปลูกกะหล่ำปลีบนเขาค้อ ต้องยอมรับเลยว่าธรรมชาติเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดมาก ความแห้งแล้งส่งผลกระทบไปทั่วทุกพื้นที่
“ปีนี้อากาศร้อนจัดอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศา ติดต่อกันนานหลายวัน ทำให้กะหล่ำปลีที่ปลูกไปแล้วบางส่วนชะลอการเติบโตไม่ห่อหัว บางส่วนถึงขั้นแคะแกร็นไปเลยก็มี และยิ่งไปกว่านั้นปีนี้ฤดูฝนมาเร็วกว่าปกติเกิดพายุกระหน่ำทำให้ผลผลิตที่อดทนต่อความแล้งได้นั้นกลับกลายมาเสียหายมากกว่า 90 % ทำให้เดือน ก.ค. นี้ จะมีกะหล่ำปลีส่งมอบไปให้ลูกค้าปริมาณน้อยสุดๆ หรืออาจจะไม่มีเลย”
ในแปลงที่น้ำไม่เพียงพอก็ได้ปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อตัดวงจรโรคและปรับปรุงบำรุงดินเตรียมพร้อมสำหรับรอบต่อไป และแปลงที่มีน้ำเพียงพอก็ได้ลงปลูกรุ่นใหม่แล้วซึ่งกะหล่ำปลีจะใช้เวลาในการเติบโตสะสมอาหารถึง 90 วัน จึงจะได้คุณภาพที่ดีเยี่ยม รสชาติอร่อย หวาน กรอบ ปลอดภัย โดยผลผลิตจะพร้อมเก็บเกี่ยวมามอบให้ลูกค้าเลมอนฟาร์มได้ทานกัน ในช่วงเดือน ส.ค. นี้ ร่วมเป็นกำลังใจให้กับเกษตรกรอินทรีย์ หัวใจอินทรีย์ ดูแลเอาใจใส่ผลผลิตอินทรีย์ด้วยความรัก และความซื่อตรงต่อผู้บริโภค


ความยากลำบากของการปลูกผักในฤดูฝน เป็นงานที่หินและปราบเซียนของพี่ๆ เกษตรกรอินทรีย์ ขนาดลุงสมทบ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ เพชบุระ พีจีเอส เพชรบูรณ์เซียนปลูกกะหล่ำปลีบนเขาค้อ ต้องยอมรับเลยว่าธรรมชาติเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดมาก ความแห้งแล้งส่งผลกระทบไปทั่วทุกพื้นที่
“ปีนี้อากาศร้อนจัดอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศา ติดต่อกันนานหลายวัน ทำให้กะหล่ำปลีที่ปลูกไปแล้วบางส่วนชะลอการเติบโตไม่ห่อหัว บางส่วนถึงขั้นแคะแกร็นไปเลยก็มี และยิ่งไปกว่านั้นปีนี้ฤดูฝนมาเร็วกว่าปกติเกิดพายุกระหน่ำทำให้ผลผลิตที่อดทนต่อความแล้งได้นั้นกลับกลายมาเสียหายมากกว่า 90 % ทำให้เดือน ก.ค. นี้ จะมีกะหล่ำปลีส่งมอบไปให้ลูกค้าปริมาณน้อยสุดๆ หรืออาจจะไม่มีเลย”
ในแปลงที่น้ำไม่เพียงพอก็ได้ปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อตัดวงจรโรคและปรับปรุงบำรุงดินเตรียมพร้อมสำหรับรอบต่อไป และแปลงที่มีน้ำเพียงพอก็ได้ลงปลูกรุ่นใหม่แล้วซึ่งกะหล่ำปลีจะใช้เวลาในการเติบโตสะสมอาหารถึง 90 วัน จึงจะได้คุณภาพที่ดีเยี่ยม รสชาติอร่อย หวาน กรอบ ปลอดภัย โดยผลผลิตจะพร้อมเก็บเกี่ยวมามอบให้ลูกค้าเลมอนฟาร์มได้ทานกัน ในช่วงเดือน ส.ค. นี้ ร่วมเป็นกำลังใจให้กับเกษตรกรอินทรีย์ หัวใจอินทรีย์ ดูแลเอาใจใส่ผลผลิตอินทรีย์ด้วยความรัก และความซื่อตรงต่อผู้บริโภค
